วันพุธที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ม.๑๑

มาตรา 11  ในกรณี[1]มีปัญหาว่าคดีใดจะอยู่ในอำนาจศาลเยาวชนและครอบครัว หรือศาลยุติธรรมอื่น ไม่ว่าจะเกิดปัญหาขึ้นในศาลเยาวชนและครอบครัวหรือศาลยุติธรรมอื่น [2]ให้ประธานศาลฎีกาเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด คำวินิจฉัยของประธานศาลฎีกาให้เป็นที่สุด
                การขอให้ประธานศาลฎีกาวินิจฉัยชี้ขาดตามวรรคหนึ่ง คู่ความจะต้องร้องขอก่อนวันสืบพยานแต่ในกรณีที่ศาลเห็นสมควรให้กระทำได้ก่อน มีคำพิพากษาของศาลชั้นต้นและในกรณีเช่นว่านี้ ให้ศาลนั้นรอการพิจารณาพิพากษาคดีไว้ชั่วคราว
คำวินิจฉัยของประธานศาลฎีกา ไม่มีผลกระทบต่อกระบวนพิจารณาของศาลที่ได้ดำเนินการไปแล้ว






[1] คำว่า มีปัญหา  คือ เมื่อมีการโต้แย้งว่าโจทก์ฟ้องประเด็นดังกล่าวไม่อยู่ในอำนาจศาลทั่วไปแต่เป็นอำนาจศาลครอบครัวหรือโต้แย้งว่าไม่อยู่ในอำนาจของศาลครอบครัวแต่อยู่อำนาจศาลทั่วไป  แต่จะโต้แย้งในชั้นอุทธรณ์หรือฎีกาไม่ได้ และประธานศาลฎีกาจะวินิจฉัยตามมาตรา ๑๒ ไม่ได้เพราะล่วงเลยเวลาที่จะยกขึ้นอ้าง แม้ส่งมาศาลฎีกาก็ไม่รับวินิจฉัย ๕/๔๔
[2] เป็นอำนาจประธานศาลฎีกา  ศาลชั้นต้นหรือศาลฎีกาไม่มีอำนาจวินิจฉัย   

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น