การขอให้ประธานศาลฎีกาวินิจฉัยชี้ขาดตามวรรคหนึ่ง คู่ความจะต้องร้องขอก่อนวันสืบพยานแต่ในกรณีที่ศาลเห็นสมควรให้กระทำได้ก่อน มีคำพิพากษาของศาลชั้นต้นและในกรณีเช่นว่านี้ ให้ศาลนั้นรอการพิจารณาพิพากษาคดีไว้ชั่วคราว
คำวินิจฉัยของประธานศาลฎีกา ไม่มีผลกระทบต่อกระบวนพิจารณาของศาลที่ได้ดำเนินการไปแล้ว
[1]
คำว่า “มีปัญหา” คือ
เมื่อมีการโต้แย้งว่าโจทก์ฟ้องประเด็นดังกล่าวไม่อยู่ในอำนาจศาลทั่วไปแต่เป็นอำนาจศาลครอบครัวหรือโต้แย้งว่าไม่อยู่ในอำนาจของศาลครอบครัวแต่อยู่อำนาจศาลทั่วไป แต่จะโต้แย้งในชั้นอุทธรณ์หรือฎีกาไม่ได้
และประธานศาลฎีกาจะวินิจฉัยตามมาตรา ๑๒ ไม่ได้เพราะล่วงเลยเวลาที่จะยกขึ้นอ้าง
แม้ส่งมาศาลฎีกาก็ไม่รับวินิจฉัย ๕/๔๔
[2]
เป็นอำนาจประธานศาลฎีกา ศาลชั้นต้นหรือศาลฎีกาไม่มีอำนาจวินิจฉัย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น